เควอซิตินกับวิตามินซี ในการวิจัยเพื่อหาวิธีป้องกันโรคระบบทางเดินหายใจโควิด-19

เควอซิตินมีฤทธิ์ต้านไวรัสที่มีผลต่อระบบทางเดินหายใจ เช่น ไรโน, เอ็กโคว์ (ชนิด 7, 11, 12, 19), ค็อกแซ็กกี (กลุ่ม A1, B1), โปลิโอ (ชนิด 1 ซาบิน) รวมถึงเมนโก ที่ทำลายอวัยวะในร่างกายอย่างรุนแรง นอกจากนี้ยังมีคุณสมบัติสำคัญคือ สามารถยับยั้งการแบ่งตัวของไวรัส ลดการทำลายเซลล์โดยไวรัสโดยตรงหลังการติดเชื้อ 48 ชั่วโมง ลดการกระตุ้นของไวรัสต่อระบบทางเดินหายใจและลดความรุนแรงของไวรัสไรโนด้วยการช่วยปรับอินเทอร์เฟอโรน (IFN) กับ ไอแอล-8 (สารไซโตไคน์ที่สร้าง และหลั่งโดยเซลล์ในระบบภูมิคุ้มกัน มีบทบาทด้านภูมิคุ้มกันและด้านอื่น รวมถึงการอักเสบ การอักเสบเป็นปฏิกิริยาของร่างกายในการสู้กับสิ่งแปลกปลอม เมื่อสิ่งแปลกปลอมเข้าสู่ร่างกาย เซลล์ในระบบภูมิกันจะสร้าง และหลั่งไซโตไคน์ไปสู้ แต่ถ้าร่างกายมีการปฏิกิริยามากเกินไปจนสร้างและหลั่งไซโตไคน์หลายชนิดเข้าสู่กระแสเลือดพร้อมกันในปริมาณมาก จะเกิดเป็น “พายุไซโตไคน์” ซึ่งเป็นผลเสีย พายุไซโตไคน์เกิดจากหลายสาเหตุ อาทิ การติดเชื้อ ภาวะภูมิต้านตัวเอง อาการเมื่อเกิดพายุไซโตไคน์ คือไข้สูง คลื่นไส้ อ่อนเพลีย อวัยวะอักเสบ)

เมื่อใช้เควอซิตินคู่กับวิตามินซี ซึ่งวิตามินซีมีคุณสมบัติช่วยป้องกันการสลายของเควอซิตินและหมุนเวียนเควอซิตินกลับมาใช้ได้อย่างปลอดภัยมีประสิทธิภาพ

จากการทดลองกับไวรัสโรคซาร์ เควอซิตินกับวิตามินซีทำงานเสริมกันในการเพิ่มและสร้างความสมดุลให้ระบบภูมิคุ้มกัน ยับยั้งการเข้าสู่เซลล์ของไวรัส ระงับการแบ่งตัวของไวรัสด้วยการเพิ่มจำนวนอินเทอร์เฟอโรน ปรับการทำงานของไซโตไคน์ (ชนิด อินเทอร์ลูคินส์) กระตุ้นการทำงานของเม็ดเลือดขาวที-เซลล์ และกระบวนการกำจัดสิ่งแปลกปลอม

โรคซาร์กับโควิด-19 เกิดจากไวรัสตระกูลเดียวกันคือ ‘ไวรัสโคโรนา’ ผลที่ได้จากการทดลองกับไวรัสโรคซาร์ทำให้เควอซิตินกับวิตามินซี (อาจได้รับการพัฒนาให้) เป็นอีก “ตัวเลือก” ที่ดีในการป้องกันรักษาโรคโควิด-19 ในอนาคต เนื่องจากไม่มีผลข้างเคียง และราคาถูก

ขณะนี้ในบางแห่ง มีการแนะนำให้กินเควอซิตินกับวิตามินซีเพื่อป้องกันโรคโควิด-19 ในระยะเริ่มต้นแล้ว

บริษัท สุพรีม ฟาร์มาเทค จำกัด บริษัทผู้นำทางด้านการผลิตและส่งออกอาหารเสริมรายใหญ่ของประเทศไทย มีแผนเปิดตัวผลิตภัณฑ์อาหารเสริมสูตรใหม่ที่มีสารสกัดจาก “เควอซิติน” โดยผลิตด้วยเทคโนโลยีไลโปโซมที่ช่วยเสริมในเรื่องการดูดซึมของสารอาหารให้ได้ประสิทธิภาพดียิ่งขึ้น ซึ่งปัจจุบันสถิติผู้ป่วยด้วยโรคระบบทางเดินหายใจมีอัตราที่สูงเพิ่มขึ้น

เทคโนโลยีไลโปโซมนั้นเป็นที่รู้จักอย่างแพร่หลายในต่างประเทศ ส่วนในประเทศไทยเทคโนโลยีไลโปโซมถูกนำเข้ามาผ่านบริษัท สุพรีม ฟาร์มาเทค ซึ่งได้กลายเป็นผู้นำเทคโนโลยีไลโปโซมที่ทันสมัยที่สุดในอาเซียน ผู้นำเทคโนโลยีนี้มาสู่รูปแบบการผลิตยา อาหารเสริมและเครื่องสำอาง ช่วยให้ผู้บริโภคได้รู้จักกับเทคโนโลยีแห่งอนาคตที่จะมีบทบาทสำคัญมากยิ่งขึ้นในโลกของธุรกิจอาหารเสริม

Original publisher: Frontiers In Immunology

Original study: https://www.frontiersin.org/articles/10.3389/fimmu.2020.01451/full