‘เรสเวอราทรอล’ อนาคตของการรักษาที่ไวรัสโควิดต้องเกรง
‘เรสเวอราทรอล’ อนาคตของการรักษาที่ไวรัสโควิดต้องเกรง
ความรุนแรงของการติดเชื้อไวรัสมักเกิดจากจำนวนไวรัสที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ส่งผลให้การติดเชื้อของเซลล์ในร่างกายขยายวงกว้างออกไป ซึ่งหากร่างกายไม่สามารถกำจัดเชื้อได้ทันท่วงทีก็อาจส่งผลต่อชีวิตได้
ปี 2021 คณะนักวิจัยในประเทศฝรั่งเศสได้ทำการทดลอง เพื่อหาสารที่มีคุณสมบัติขัดขวางการเพิ่มจำนวนของไวรัสโควิด-19 ด้วยการทดสอบจากยาทั้งหมด 7 ชนิด ได้แก่ ราพาไมซิน ไดซัลฟิแรม โลพีราไมด์ กรดวาลโปรอิก (VPA) เรสเวอราทรอล โลพินาเวียร์ และคลอโรควิน
ผลการทดลองพบว่า ราพาไมซิน ไดซัลฟิแรม โลพีราไมด์ และ กรดวาลโปรอิก มีความเป็นพิษต่อเซลล์สูง จนไม่สามารถนำมาทดสอบต่อได้ ในขณะที่เรสเวอราทรอล โลพินาเวียร์ และ คลอโรควิน มีประสิทธิภาพในการออกฤทธิ์ต่อต้านการเพิ่มจำนวนของไวรัสโควิด-19 ใกล้เคียงกัน แต่เรสเวอราทรอลมีค่าความเป็นพิษต่อเซลล์ต่ำที่สุด ทำให้เรสเวอราทรอลเหมาะที่จะนำมาใช้รักษาการติดเชื้อไวรัสโควิด-19 มากที่สุดตัวหนึ่ง ซึ่งการค้นพบครั้งนี้ทำให้เรสเวอราทรอลมีแนวโน้มที่จะถูกนำไปพัฒนาเพื่อใช้รักษาการติดเชื้อจากไวรัสโควิด-19 ต่อไปในอนาคต
การใช้ ‘เทคโนโลยีนาโนไลโปโซม’ ซึ่งเป็นนวัตกรรมการนำส่งสารแห่งอนาคตจะเป็นตัวช่วยสำคัญในการนำส่งสารเรสเวอราทรอลเข้าสู่ร่างกายได้ง่ายและรวดเร็วกว่าการดูดซึมการจากรับประทานอาหารเสริมทั่วไปตามปกติ เนื่องจากไลโปโซมจะทำหน้าที่ห่อหุ้มสารสกัดสำคัญให้คงคุณภาพระหว่างทางที่จะดูดซึมเข้าสู่ร่างกาย เพื่อไม่ให้ถูกทำลายโดยเอ็นไซม์และน้ำดีในระบบทางเดินอาหาร ‘เทคโนโลยีไลโปโซม’ ยังไม่ส่งผลเสียต่ออวัยวะสำคัญอย่างตับ ทำให้สารสกัดสำคัญส่งตรงเข้าสู่เซลล์ได้ดีและรวดเร็วมากยิ่งขึ้น สำคัญคือไม่ต้องรับประทานในปริมาณมาก
สุพรีม ฟาร์มาเทค โรงงานเภสัชกรรมยุคใหม่ คือผู้นำเทคโนโลยีไลโปโซมเข้ามาสู่ตลาดอาหารเสริมในอาเซียนและประเทศไทยเป็นรายแรก เพราะอีกไม่นานเทคโนโลยีแห่งอนาคตนี้จะกลายเป็นกลไกสำคัญที่มีบทบาทมากยิ่งขึ้นในอุตสาหกรรมการผลิตอาหารเสริมของประเทศไทย
Original publisher: MDPI Viruses Journal
Original study: https://www.mdpi.com/1999-4915/13/2/354