‘เควอซิติน’ สิ่งที่ทำให้การอักเสบกลายเป็นเรื่องเด็ก ๆ
‘เควอซิติน’ สิ่งที่ทำให้การอักเสบกลายเป็นเรื่องเด็ก ๆ
อาการปอดบวม และปอดอักเสบรุนแรงจนถึงขั้นเสียชีวิตคือ ความร้ายแรงของเชื้อโรคระดับพระกาฬอย่างโควิด-19 อาการหนัก ๆ ทั้งหมดล้วนเกิดกับระบบทางเดินหายใจ เช่น ระบบทางเดินหายใจล้มเหลว ภาวะปอดเกิดความเสียหายเฉียบพลัน ไปจนถึงอวัยวะภายในล้มเหลว ซึ่งอาการรุนแรงทั้งหมดนี้เป็นผลจากการอักเสบในระดับที่ร่างกายรับไม่ไหว
‘การอักเสบ’ คืออะไร?การอักเสบเป็นกระบวนการที่ร่างกายตอบสนองต่อสิ่งที่ทำให้เซลล์ หรือเนื้อเยื่อของร่างกายได้รับบาดเจ็บ กล่าวได้ว่า เป็นกระบวนการที่เป็นไปเพื่อกำจัดสิ่งแปลกปลอม หรือเชื้อโรคให้ออกไปจากร่างกาย แต่หากเกิดการอักเสบมากเกินไป ก็อาจทำให้เนื้อเยื่อถูกทำลายจนส่งผลให้ทำงานผิดปกติได้
เควอซิตินเป็นสารที่มีคุณสมบัติในการต้านอนุมูลอิสระ เพิ่มพลังงานให้กับเซลล์ รวมถึงมีฤทธิ์ต้านทานการอักเสบ ซึ่งเป็นสาเหตุของอาการรุนแรงในผู้ป่วยโควิด-19 เควอซิตินมีผลในการยับยั้งการอักเสบ (NLRP3 inflammasome) เพราะสามารถเข้าไปควบคุมปฏิกิริยาทางเคมี (จาก TXNIP, SIRT1 และ NRF2) ที่มีบทบาทต่อการทำงานของ NLRP3 inflammasome ได้
เควอซิตินพบได้มากที่สุดในผักและผลไม้ เช่น แอปเปิล เบอร์รี หัวหอม ตังกุย ผักชี ผักชีลาว เป็นต้น
การนำส่ง ‘เควอซิติน’ เข้าสู่ร่างกายได้ดีที่สุดวิธีหนึ่งคือ การใช้นาโนเทคโนโลยีที่เรียกว่า “ไลโปโซม” นวัตกรรมนำส่งสารแห่งอนาคต ที่จะช่วยให้สารทรงคุณค่าอย่างเควอซิตินดูดซึมเข้าสู่ร่างกายได้ดีกว่าการรับประทานตามปกติ เนื่องจากไลโปโซมจะทำหน้าที่ห่อหุ้มสารสกัดสำคัญให้คงคุณภาพระหว่างทางที่จะดูดซึมเข้าสู่ร่างกาย เพื่อไม่ให้ถูกทำลายโดยเอนไซม์ และน้ำดีในระบบทางเดินอาหาร ไลโปโซมยังไม่ส่งผลเสียต่ออวัยวะสำคัญอย่างตับ ทำให้สารสกัดสำคัญส่งตรงเข้าสู่เซลล์ได้ดี และรวดเร็วมากยิ่งขึ้น สำคัญคือไม่ต้องรับประทานในปริมาณมาก
บริษัท สุพรีม ฟาร์มาเทค เป็นผู้นำทางด้านการผลิตและส่งออกอาหารเสริมรายใหญ่ของประเทศไทย และเป็นผู้นำเทคโนโลยีไลโปโซมเข้ามาสู่ตลาดอาหารเสริมในอาเซียนเป็นรายแรก เพราะอีกไม่นานเทคโนโลยีแห่งอนาคตนี้จะกลายเป็นปัจจัยสำคัญในธุรกิจการผลิตอาหารเสริมอย่างแน่นอน นอกจากนี้สุพรีม ฟาร์มาเทค ยังมีแผนเปิดตัวผลิตภัณฑ์อาหารเสริมสูตรใหม่ที่มีสารสกัดจาก“เควอซิติน” ที่ผลิตด้วยเทคโนโลยีไลโปโซมด้วย
Original publisher: BMC Journal of Inflammation
Original study: https://journal-inflammation.biomedcentral.com/articles/10.1186/s12950-021-00268-6