กลไกในการออกฤทธิ์ของเคอร์คูมินเกิดจากปฏิกิริยาระหว่างโลหะกับลิแกนด์ [38] ซึ่งจะลดปริมาณของโลหะหนัก
และผลกระทบที่เป็นพิษต่อร่างกายได้ ยิ่งไปกว่านั้น เคอร์คูมินยังสามารถแทรกแซงการดูดซึมแคดเมียมในทางเดินอาหาร [39] ส่งผลให้ความเข้มข้นของแคดเมียมในเลือดและเนื้อเยื่อลดลง สิ่งนี้แสดงให้เห็นว่าเคอร์คูมินอาจมีฤทธิ์ในการจับและขับโลหะหนักออกจากร่างกายได้ [40]
เคอร์คูมินยังช่วยเพิ่ม GSH [41] ทำให้อัตราส่วนรีดอกซ์ของ GSH เป็นปกติ ก่อให้เกิดการแสดงออกของแกมมา-กลูตามิลซี
สเตอีนลิกาส [42] ซึ่งเป็นยีนปลายทางของเส้นทางการส่งสัญญาณ Nrf2-ARE [43] เคอร์คูมินสามารถควบคุมตัวกระตุ้น transcription factor Nrf2 ได้อย่างมีประสิทธิภาพและยังป้องกันการหลั่งของ IL-6 [44], IL-8 [45] ที่เกิดจากแคดเมียมได้ด้วย [46] [47] [48]
นอกจากนั้น ในสภาพแวดล้อมที่มีการควบคุมในห้องทดลอง เคอร์คูมินยังแสดงให้เห็นถึงคุณสมบัติทางเภสัชวิทยาอีกหลายอย่าง เช่น เป็นสารต้านอนุมูลอิสระ ต้านการอักเสบ ต้านมะเร็ง ป้องกันหัวใจ ป้องกันตับ ต้านอาการซึมเศร้า เพิ่มภูมิคุ้มกัน ฯลฯ [49]
โชคร้ายที่สิ่งที่ค้นพบในเบื้องต้นเหล่านี้ไม่ได้รับการสนับสนุนให้นำมาทดลองกับมนุษย์เนื่องจากปริมาณชีวปริมาณออกฤทธิ์
ที่ต่ำมากของเคอร์คูมิน ซึ่งมีไม่เกินร้อยละ 0.1 โดยประมาณ [50] ชีวปริมาณออกฤทธิ์ที่ต่ำนี้ทำให้เคอร์คูมินไม่สามารถแสดงศักยภาพในการรักษาได้เมื่อได้รับในรูปของผงหรือสารสกัด
จะเห็นได้ว่าการค้นคว้าเกี่ยวกับเคอร์คูมินในห้องทดลองได้ก่อให้เกิดความสนใจในเคอร์คูมินเพิ่มขึ้นมากทั่วโลก โดยจะเห็น
ได้ชัดในอุตสาหกรรมเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร ในแทบทุกเว็บไซต์เกี่ยวกับผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร จะมีส่วนผสมที่ทำ
จากผงหรือสารสกัดของขมิ้นชันจำหน่ายมากมายรวมทั้งข้อมูลเกี่ยวกับฤทธิ์ทางเภสัชวิทยาของเคอร์คูมินที่มีต่อโรคต่าง ๆ
เป็นจำนวนมาก การนำเสนอข้อมูลโดยวิธีนี้ถูกนำมาใช้สร้างกรอบความคิดในเวลาที่การค้นพบจากห้องทดลองถูกตีความว่าเป็นผลจากการทดสอบทางคลินิก ในความเป็นจริงแล้ว ทั้งสารสกัดและผงของขมิ้นชั้นไม่สามารถทำปฏิกิริยาทางเภสัชวิทยาได้เหมือนกับที่เคอร์คูมินได้แสดงให้เห็นจากการวิจัยในห้องทดลอง
การเพิ่มชีวปริมาณออกฤทธิ์ของเคอร์คูมินกลายมาเป็นหัวข้อในการวิจัยของคนหลายกลุ่มในหลายช่วงทศวรรษที่ผ่านมา [51] ในปัจจุบัน มีการพัฒนาเทคโนโลยีมากมายเพื่อเพิ่มชีวปริมาณออกฤทธิ์ของเคอร์คูมิน และเทคโนโลยีที่ทันสมัยที่สุดสำหรับการนำส่งสารออกฤทธิ์เข้าไปในกระแสเลือดก็คือไลโปโซม [52]
เทคโนโลยีในการนำส่งเคอร์คูมินโดยใช้ไลโปโซมนั้นทำให้สามารถนำฤทธิ์ทางเภสัชวิทยาที่ต้องการมาใช้ในมนุษย์และสัตว์ได้ ซึ่งสามารถเห็นได้จากการศึกษาทางห้องทดลองที่มีมากมายหลายพันครั้ง [53] [54]
References:
1 https://en.wikipedia.org/wiki/Cadmium
2 https://www.ncbi.nlm.nih.gov/books/NBK304372/
3 https://www.ncbi.nlm.nih.gov/pmc/articles/PMC7312803/
4 https://err.ersjournals.com/content/27/147/170122
5 https://www.ncbi.nlm.nih.gov/pmc/articles/PMC4869628/
6 https://en.wikipedia.org/wiki/Deletion_(genetics)
7 https://en.wikipedia.org/wiki/Glutathione
8 https://www.ncbi.nlm.nih.gov/pmc/articles/PMC5596182/
9 https://thorax.bmj.com/content/thoraxjnl/68/6/565.full.pdf
10 https://www.ncbi.nlm.nih.gov/pmc/articles/PMC4871351/
11 https://www.ncbi.nlm.nih.gov/pmc/articles/PMC4234139/
12 https://www.osha.gov/Publications/OSHA_3675.pdf
13 https://www.cdc.gov/niosh/pgms/worknotify/cadmium.html
14 https://www.ncbi.nlm.nih.gov/pmc/articles/PMC3858820/
15 https://www.ahajournals.org/doi/pdf/10.1161/CIRCOUTCOMES.112.000663
16 https://www.nature.com/articles/s41598-019-49807-5
17 https://www.ncbi.nlm.nih.gov/pmc/articles/PMC3974907/
18 https://academic.oup.com/toxsci/article/147/2/524/1622326
19 https://www.longdom.org/open-access/liver-and-cadmium-toxicity-2157-7609.S5-001.pdf
20 https://www.karger.com/Article/FullText/452576
21 https://www.ncbi.nlm.nih.gov/pmc/articles/PMC4498763/
22 https://www.ncbi.nlm.nih.gov/pmc/articles/PMC6124006/
23 https://www.ncbi.nlm.nih.gov/pmc/articles/PMC2826165/
24 https://www.ncbi.nlm.nih.gov/pmc/articles/PMC1008708/
25 https://www.ncbi.nlm.nih.gov/pmc/articles/PMC3399253/
26 https://www.hindawi.com/journals/bmri/2017/1981837/
27 https://link.springer.com/article/10.1007%2Fs11356-014-2970-0
28 https://www.ncbi.nlm.nih.gov/pmc/articles/PMC2790513/
29 https://www.ncbi.nlm.nih.gov/pmc/articles/PMC5734474/
30 https://www.ncbi.nlm.nih.gov/pmc/articles/PMC5762577/
31 https://www.ncbi.nlm.nih.gov/pmc/articles/PMC2709710/
32 https://www.ncbi.nlm.nih.gov/pmc/articles/PMC4192515/
33 https://www.ncbi.nlm.nih.gov/pmc/articles/PMC4613260/
34 https://www.ncbi.nlm.nih.gov/pmc/articles/PMC5431928/
35 https://en.wikipedia.org/wiki/Curcumin
36 https://en.wikipedia.org/wiki/Curcuminoid
37 https://en.wikipedia.org/wiki/Turmeric
38 https://en.wikipedia.org/wiki/Metal%E2%80%93ligand_
multiple_bond
39 https://en.wikipedia.org/wiki/Absorption
40 https://en.wikipedia.org/wiki/Chelation
41 https://en.wikipedia.org/wiki/GSH
42 https://en.wikipedia.org/wiki/Gamma-L-Glutamyl-L-cysteine
43 https://en.wikipedia.org/wiki/NFE2L2
44 https://en.wikipedia.org/wiki/Anti-IL-6
45 https://en.wikipedia.org/wiki/Interleukin_8
46 https://www.ncbi.nlm.nih.gov/pmc/articles/PMC3967187/
47 https://www.ncbi.nlm.nih.gov/pmc/articles/PMC3259219/
48 https://www.ncbi.nlm.nih.gov/pmc/articles/PMC4263715/
49 https://www.ncbi.nlm.nih.gov/pmc/articles/PMC5664031/
50 https://www.ncbi.nlm.nih.gov/pmc/articles/PMC6770259/
51 https://www.ncbi.nlm.nih.gov/pmc/articles/PMC3918523/
52 https://en.wikipedia.org/wiki/Liposome
53 https://www.ncbi.nlm.nih.gov/pmc/articles/PMC3519006/
54 https://www.ncbi.nlm.nih.gov/pmc/articles/PMC5557698/